ยูเครนต้องการแสดงให้โลกเห็นถึงการทำสงครามกับรัสเซียในรูปแบบของ NFTs รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศกล่าว
ท่ามกลางการรุกรานอย่างต่อเนื่องจากสหพันธรัฐรัสเซีย รัฐบาลยูเครนต้องการพรรณนาช่วงเวลาสงครามเพื่อแสดงให้โลกเห็นในรูปแบบของโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFTs) ดังนั้นประเทศชาติจึงยังคงจ้างกลุ่มสินทรัพย์เพื่อช่วยในการป้องกันประเทศ
สงครามรัสเซีย-ยูเครนในฐานะ NFTs
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของภาค NFT ในปีที่แล้วทำให้นักดนตรี นักกีฬา ธุรกิจ และคนดังอื่นๆ และบุคคลสำคัญต่างหลั่งไหลเข้ามามากมาย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของรัสเซียในการเปิด "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ในยูเครน กระตุ้นให้รัฐบาลของรัสเซียพยายามใช้คอลเลกชันดิจิทัลเพื่อช่วยในการป้องกันประเทศที่กำลังดิ้นรน
ในตอนแรก ยูเครนต้องการแจกจ่ายรายได้บางส่วนที่ได้จากการบริจาคเงินดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ในเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทำได้และตัดสินใจใช้เส้นทาง NFT
ตามที่รายงานโดย The Guardian รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศ Alex Bornyakov ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขายืนยันว่าคอลเล็กชันดิจิทัลจะเป็น "เหมือนพิพิธภัณฑ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน เราต้องการบอกให้โลกรู้ในรูปแบบ NFT”
นักการเมืองปฏิเสธข้อสันนิษฐานบางประการว่าเงินคริปโตจะถูกนำไปใช้เพื่อซื้ออาวุธ แต่เขาสัญญาว่าพวกเขาจะไปหายุทโธปกรณ์และให้ทุนสนับสนุนกิจกรรมด้านสื่อ
“เรากำลังซื้อแว่นตามองกลางคืน เลนส์ หมวกกันน็อค เสื้อเกราะกันกระสุน” - เขาเพิ่ม.
CryptoPotato รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงแผนการของ Wladimir Klitschko ซึ่งเป็นอดีตแชมป์มวยรุ่นเฮฟวี่เวทที่จะเปิดตัวคอลเลกชัน NFT เพื่อระดมทุนสำหรับบ้านเกิดของเขาในยูเครน
โฆษณาชวนเชื่อทางสังคมของรัสเซียปิดการใช้งาน?
ก่อนการรุกรานยูเครน รัฐบาลรัสเซียได้เริ่มการรณรงค์สื่อเพื่อแสดงให้เห็นถึงการกระทำในอนาคตและอธิบายให้คนในท้องถิ่นฟังว่าทำไมจึงต้องทำในสิ่งที่วางแผนไว้ Bornyakov ระบุว่าแนวทางนี้เป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของรัสเซีย และเชื่อว่าแบรนด์ระดับโลก เช่น Facebook และ Instagram ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการบล็อกการเข้าถึงเนื้อหาดังกล่าว
“เราโน้มน้าวให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย บริษัทต่างชาติ บล็อกรัสเซีย ออกจากรัสเซีย หรือเปลี่ยนนโยบายข้อมูลโดยสิ้นเชิง” - เขาเพิ่ม.
เป็นที่น่าสังเกตว่าอุตสาหกรรม crypto บางส่วนใช้แนวทางที่คล้ายกัน โดยที่ Coinbase บล็อกที่อยู่รัสเซีย 25,000 แห่งที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
ที่มา NEWS